เฟสเขียว

เฟสเขียว

เฟสเขียว การลงโปรโมท Facebook พวกเราจะทำเป็นก็เมื่อพวกเราทำเปิด Facebook Fanpage เพียงแค่นั้น การลงโพสต์ใน Facebook ส่วนตัวเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์จะไม่สามารถที่จะนำโพสต์นั้นมายิงประชาสัมพันธ์ได้ ด้วยเหตุนั้น คนไหนกันแน่ที่ยังไม่มี Facebook Fanpage เสนอแนะให้มองแนวทางสร้างต่อได้เลยที่ แนวทางสร้างเพจ Facebook ทำเป็นเช่นไร บอกครบทุกขั้นตอน

Boost Post ≠ Facebook Ads

ผู้กระทำดปุ่ม Boot Post รวมทั้งการยิงประชาสัมพันธ์ผ่าน Facebook Ads นั้นมีความแตกต่างกันทั้งยังในทางของการใช้แรงงานที่การ Boot Post ดีในด้านความง่าย แม้กระนั้นบางครั้งก็อาจจะตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายและก็ Goal ได้ไม่ละเอียดเท่าการลงประชาสัมพันธ์ Facebook Ads รวมทั้งคุณภาพของการแก้ไขประชาสัมพันธ์ที่เห็นได้ชัดเจนว่า การลงประชาสัมพันธ์ Facebook Ads ทำเป็นมากยิ่งกว่า เพียงมีความเหมือนกันในด้านการแสดงผลจากการซื้อประชาสัมพันธ์เพียงเท่านั้น

อย่าใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่สำหรับเพื่อการบริหารและก็ลงโปรโมท Facebook

เพราะว่าฟังก์ชันสำหรับเพื่อการลงโปรโมทบนโทรศัพท์มีไม่ครบราวการยิงผ่าน Facebook Ads Manager บนคอมพิวเตอร์ เฟสเขียว ซึ่งบางทีอาจมีผลถึงความเที่ยงตรง ค่าใช้สอย และก็ Goal ที่ตั้งไว้ได้

เฟสเขียว งานที่ใช้สำหรับในการทำประชาสัมพันธ์ของ Facebook Ads = โพสต์บนเพจ

การลงประชาสัมพันธ์ Facebook ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโพสต์ลงบนเพจก่อนทุกหน แต่ว่าพวกเราสามารถสร้างงานประชาสัมพันธ์ที่ลอยๆอยู่ในระบบ Facebook Ads ได้ (พวกเราเรียกกันว่า Unpublished Post หรือ Ad Post) ซึ่งตัว Ad Post จะสร้างแล้วก็ใช้ประโยชน์งานได้นานัปการกว่า

1. สร้าง Account

ขั้นตอนแรกเลยคุณจะต้องสมัคร Facebook Ads Manager เพื่อจะใช้วัสดุนี้สำหรับในการสร้าง เปลี่ยนแปลง จัดแจง และก็พินิจพิจารณาคำตอบการยิงโปรโมท Facebook Ads

2. ไปสู่หน้า Overview

ภายหลังสมัครเข้าใช้งาน Facebook Ads Manager ตามขั้นตอนทั้งปวงแล้วจะถูกพาไปสู่หน้า Overview ถ้าอยากได้ยิงประชาสัมพันธ์ Facebook Ads ให้คลิกเลือกที่ Business Tools (จุด 9 จุดฝั่งซ้ายมือ) และก็คลิกที่ Ad Manager เพื่อไปสู่หน้าของการผลิตแคมเปญ Ads ถัดไป

3. สร้าง Campaign

ขั้นที่ 1 เริ่มสร้าง Campaign

เมื่อคลิกเข้ามาแล้วจะพบกับหน้าต่างภาพรวมในลักษณะ Table สำหรับคนใดกันที่ยังไม่เคยรันแคมเปญโปรโมทจะยังไม่เป็นผลลัพธ์ใดๆก็ตามปรากฏ แม้กระนั้นจะมีแถบรายการอาหารข้างบนเรียงลำดับจาก Campaign > Ad sets > Ads

โดยที่รายการอาหาร Campaign จะเป็นเสมือนร่มใหญ่ที่ครอบ Ad sets และก็ Ads เอาไว้ ซึ่งพวกเราสามารถจัดแจงแคมเปญต่างๆและก็มองผลแบบภาพรวมได้ทั้งผองในหน้านี้ ดังเช่น

  • Create Campaign: สร้างแคมเปญโปรโมท Facebook Ads ใหม่
  • Duplicate: สร้างแคมเปญโปรโมทเดิมซ้ำ
  • Edit: ปรับแก้แคมเปญ อย่างเช่น ปรับปรุงชื่อแคมเปญ, เริ่มทำ AB Test, ระบุลิมิตการใช้เงินประชาสัมพันธ์
  • A/B Test: สร้างการทดลอง A/B Test ของประชาสัมพันธ์ได้

ขั้นที่ 2 เลือก Campaign Objective

ถัดมาคุณต้องกระทำเลือก Campaign Objective ให้ตรงกับคำตอบที่คุณอยากได้จากการยิง Ads ซึ่งจะแบ่งได้ 3 กรุ๊ปสำคัญๆเป็น

Awareness: เน้นการสร้างแบรนด์ให้มีชื่อเสียง โดยคำตอบที่ได้บางครั้งก็อาจจะเป็นการกดไลก์ เฟสเขียว แชร์ คอมเมนต์ หรือการเข้าถึงในวงกว้าง ซึ่งแบ่งได้…

  • Brand Awareness > เป็นการสร้างการรับทราบให้กับแบรนด์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีทิศทางพึงพอใจในประชาสัมพันธ์ Facebook Ads เพื่อเพิ่มการรับทราบแบรนด์และก็จำให้เพิ่มมากขึ้น
  • Reach > เป็นการย้ำการแสดงผลโปรโมทให้คนเห็นได้มากที่สุด แล้วก็เลือกความถี่สำหรับในการมองเห็นบ่อยๆเป็นประจำได้จากการกำหนด Frequency Capping สำหรับเพื่อการโปรโมท
  • Consideration: เน้นไปที่การให้กลุ่มเป้าหมายมีความสัมพันธ์ด้วย แบ่งได้…
  • Traffic > เพิ่มผู้เข้าชมเว็บจากอีกทั้งในและก็นอก Facebook โดยมีตัวชี้วัดเป็น ปริมาณการเข้าชม (Landing Page Views) แล้วก็ปริมาณการคลิกลิงก์ (Link Clicks)
  • Engagement > เพิ่มการเห็นแล้วก็นำส่งประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ถูกใจมีความเกี่ยวข้องกับโพสต์เป็นลำดับต้นๆโดยผลสรุปชอบได้เป็นการกดไลก์ แชร์ คอมเมนต์ อื่นๆอีกมากมาย
  • App Installs > เพิ่มจังหวะให้คนดาวน์โหลดหรือซื้อแอปพลิเคชัน (จะแสดงผลลัพธ์บนโทรศัพท์เพียงแค่นั้น)
  • Video Views > เพิ่มการรับดูวิดีโอ ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักดีกับแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ด้วยรายละเอียดที่น่าดึงดูด
  • Lead Generation > เพิ่มลูกค้า ด้วยการเก็บข้อมูลลูกค้าในรูปของแบบฟอร์ม โดยคุณสามารถใช้รายนามลูกค้ากลุ่มนี้มาทำ CRM ย้อนไปได้อีกด้วย
  • Messages > เพิ่มจังหวะสำหรับในการที่กลุ่มเป้าหมายจะส่งข้อความกลับมาหาคุณ เหมาะกับกรุ๊ปพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ หรือธุรกิจต้องการปิดแนวทางการขายบน Facebook Messager เป็นหลัก

Conversion: เน้นไปที่การผลิตยอดจำหน่ายให้กับธุรกิจ แบ่งได้เป็น…

  • Conversions > เข้าพบกลุ่มเป้าหมายที่ได้โอกาสจะทำ Action บางสิ่งบางอย่างที่พวกเราอยากได้ ตัวอย่างเช่น ซื้อผลิตภัณฑ์ในเว็บ, สมัครสมาชิกรับข่าว อื่นๆอีกมากมาย เพื่อนำไปสู่ยอด Conversion ที่คุณปรารถนา แม้กระนั้นแนวทางการทำประชาสัมพันธ์จุดประสงค์นี้จำเป็นจะต้องมีการจัดตั้ง Facebook Pixel ซะก่อน ซึ่งคุณสามารถมองกรรมวิธีการจัดตั้งเหมาะ ????กระบวนการจัดตั้งรวมทั้งใช้งาน Facebook Pixel
  • Catalogue Sales > แม้คุณขายของที่นานัปการแบบ E-commerce สามารถใช้ Objective นี้สำหรับในการสร้างแอดเค้าหน้าคล้ายกับแคตตาล็อกได้เลย
  • Store Traffic > เป็น Objective ที่ช่วยแสดงตำแหน่งของร้านค้า เพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจกับผู้ที่อยู่ใกล้เคียงได้ตามกำหนด

ขั้นที่ 3 ใส่ Campaign Detail

เมื่อเลือก Objective เสร็จก็จะเข้าสู่หน้าการตั้งค่าเพิ่ม เฟสเขียว โดยคุณสามารถใส่ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวกับแคมเปญได้ในขั้นนี้

ใส่เนื้อหาของแคมเปญ เช่น

  • ชื่อแคมเปญ
  • กระบวนการทำ A/B Test โดยสามารถเลือกได้ว่าจะทำ A/B Testing ไหม

การกำหนด Budget ที่จะใช้ในแคมเปญนี้ โดยจะเลือกได้ว่าจะจ่ายเป็นรายวัน (Daily Budget) หรือตั้งงบลงประชาสัมพันธ์แบบตลอดอายุ (Lifetime Budget) ซึ่งจะได้แก่การใช้งบประมาณตราบจนกระทั่งจะหมดตลอดทั้งแคมเปญ

4. สร้าง Ad sets

ไปสู่ขั้นตอนสำคัญของการลงประชาสัมพันธ์ Facebook Ads กับการผลิต Ad sets ซึ่งเป็นขั้นตอนของการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ยิ่งถ้าหากคุณระบุได้ละเอียดรวมทั้งตรงกับความพอใจของเขาจริงๆมากแค่ไหน ก็จะยิ่งช่วยทำให้ Ads มี Performance ที่ดียิ่งขึ้นตามไปด้วย

ขั้นที่ 1 ตั้งชื่อ Ad sets ตั้งค่า Budget และก็ในตอนที่อยากได้รันแคมเปญ

  • ขั้นตอนนี้เป็นการกำหนดชื่อของ Ad sets รวมทั้งถ้าเกิดคุณมิได้ตั้งค่า Budget ในระดับแคมเปญไว้ คุณสามารถตั้งค่า Budget แยกตาม Ad sets ถึงที่กะไว้นี่จ้ะ
  • นอกนั้น คุณยังต้องกำหนดวันแล้วก็ในเวลาที่ปรารถนา Publsih แคมเปญแล้วก็วัน-ขณะที่อยากจบแคมเปญนี้เอาไว้ด้วย

ขั้นที่ 2 ระบุกลุ่มเป้าหมาย

คุณสามารถเลือกระบุกลุ่มเป้าหมายได้จากการผลิต New Audience ซึ่งจะแบ่งเป็น…

  • Custom Audiences (กลุ่มเป้าหมายที่ระบุเอง) ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ทำขึ้นมาได้โดยใช้ข้อมูลที่ได้รับมาจากธุรกิจพวกเราโดยตรงทั้งๆที่อยู่ในระบบ Facebook (On-Facebook) หรือข้อมูลที่อยู่นอกระบบ Facebook (Off-Facebook) โดยคุณสามารถมองมีวิธีการสร้าง Custom Audiences ได้ ตรงนี้
  • Lookalike Audiences (กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายคลึงกัน) โดยจะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ใช้แม้ลุ่มลูกค้าใหม่ๆที่มีความเหมือนกับกรุ๊ปลูกค้าเดิมของพวกเรา

แต่ว่าหากว่าคุณยังไม่มีข้อมูลฐานลูกค้ามากพอที่จะทำ Custom และก็ Lookalike Audience คุณสามารถเริ่มด้วยการใช้ Saved Audience โดยการกำหนด ความพอใจ เฟสเขียว ความประพฤติปฏิบัติ ข้อมูลสามัญชน เรียกตัวเลือกที่ระบบประชาสัมพันธ์บน Facebook มีให้

ขั้นที่ 3 ระบุพื้นที่การโฆษณา

คุณสามารถเลือก Placement ที่โปรโมทจะไปปรากฏบน Platform ต่างๆได้ เป็นต้นว่า Facebook, Instagram, Messenger รวมทั้งเลือก Device ว่าจะให้แสดงโปรโมทนี้เฉพาะการใช้แรงงานผ่านคอมพิวเตอร์หรือบนโทรศัพท์ก็ได้อีกเช่นเดียวกัน

สำหรับคนแรกที่มีความคิดริเริ่มต้นยิง Facebook Ads จะต้องอย่าลืมมอง Audience Definition ประกอบกับการกำหนดกลุ่มเป้าหมายเพราะ อยู่ในขนาดที่พอดิบพอดีหรือเปล่า

  • ถ้าเข้าขั้นสีเขียว คือ กลุ่มเป้าหมายมีขนาดกำลังดี
  • สีเหลือง คือ กลุ่มเป้าหมายกว้างเหลือเกิน ทำให้โปรโมทบางทีอาจเข้าไม่ถึงกรุ๊ปลูกค้าที่หมายมั่น
  • สีแดง คือ กลุ่มเป้าหมายแคบไป อาจจะก่อให้การถ้าเกิดลุ่มแผนการที่จะกระทำโปรโมททำเป็นยากขึ้น

ซึ่งคุณจะดูตัวเลขสรุปยอดผู้ที่สามารถเข้าถึงได้จาก Potential Reach ว่ามากมายหรือไม่พอ หากว่าเยอะเกินไปก็น่าจะระบุกลุ่มเป้าหมายหรือเพิ่มความพึงพอใจให้แคบลง

5. สร้าง Ads

ท้ายที่สุดจะคือเรื่องของการผลิตแอด โดยขั้นนี้จะเป็นการกำหนดรูปแบบโปรโมทของคุณว่าจะออกมาเป็นต้นแบบไหน ที่สามารถแบ่งขั้นตอนออกเป็น 5 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

ขั้นที่ 1 ตั้งชื่อรวมทั้งเลือกกำหนดรูปแบบของโปรโมท Facebook Ads

เริ่มต้นเลยให้ท่านตั้งชื่อ Ads ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ต่อจากนั้นให้ลงมาที่ Ad setup และก็กำหนดรูปแบบโปรโมทว่าจะเลือกเป็น Ads ที่สร้างใหม่ (Create Ad) เลือกใช้ของเดิมที่เป็นโพสต์บน Facebook Fanpage หรือเป็น Ads ที่เคยทำแล้วก็เคยใช้งานมาก่อนแล้ว (Use existing post) หรือจะเลือกใช้แบบจำลองของผลิตภัณฑ์แทนรูปภาพจริงสำหรับในการลงโปรโมทก็ได้เหมือนกัน (Use creative hub mockup)

ขั้นที่ 2 เลือก Format ของ Ads ที่จะใช้

ถ้าคุณเลือกการผลิตแอดใหม่ คุณสามารถเลือก Format ที่จะไปแสดงผลลัพธ์เป็นต้นแบบโพสต์จำพวกต่างๆมาก ไม่ว่าจะเป็น…

  • Image ประชาสัมพันธ์จำพวกรูปภาพ ใช้ jpg หรือ png ในขนาด 1.91 : 1 ถึง 4 : 5
  • Video ประชาสัมพันธ์จำพวกวิดีโอ ใช้ได้แทบทุกสกุลไฟล์ แต่ว่าจะมีการระบุความยาวว่าจำเป็นต้องไม่น้อยกว่า 1 วินาที สูงสุดไม่เกิน 240 นาที รวมทั้งมีรูปร่าง 9 : 16 ถึง 16 : 9
  • Carousel ประชาสัมพันธ์ในต้นแบบสไลด์ ใช้ได้อีกทั้งแบบรูปภาพแล้วก็วิดีโอ โดยควรมีปริมาณทั้งปวง 2 ภาพ หรือ 2 วิดีโอขึ้นไป ซึ่งการยิง Ads ลักษณะนี้ควรจะมี Landing page รองรับ
  • Full-screen mobile Experience หรือกระบวนการทำ Canvas Ads เป็นประชาสัมพันธ์ที่คุณสามารถพรีเซ็นท์ผลิตภัณฑ์ด้วยสื่อต่างๆทั้งยังรูปภาพ วิดีโอ ใจความ รวมถึงการมีลิงค์เพื่อสั่งซื้อหรือถามได้ในโพสต์เดียว

ขั้นที่ 3 เขียนแคปชั่นและก็ Headline ให้ปัง

เว้นเสียแต่ Format ที่จำต้องยั่วยวนใจสะดุดตาแล้ว เรื่องของ Headline แล้วก็แคปชั่นเองก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจำเป็นต้องครีเอตไอเดียสำหรับในการเล่าของผลิตภัณฑ์และก็บริการที่ปรารถนาเสนอให้ออกมาถูกใจกลุ่มเป้าหมายให้ได้

ขั้นที่ 4 อย่าลืมหัวข้อการ Tracking

ขั้นตอนสุดท้ายก่อน Publish เป็นเรื่องของการ Tracking ผ่าน Facebook Pixel เพื่อมองความประพฤติปฏิบัติของลูกค้าว่าส่งผลลัพธ์มาจากประชาสัมพันธ์ที่พวกเราส่งไปไหม แม้จัดตั้ง Facebook Pixel แล้วจะต้องอย่าลืมใส่ข้อมูลส่วนนี้ด้วยนะคะ สล็อต สล็อตออนไลน์

ขั้นที่ 5 กด Publish

ภายหลังกด Publish แล้ว คุณจะมีความคิดเห็นว่าในช่อง Delivery สถานะจะขึ้นเป็น ‘In Review’ เป็นการรอคอยตรวจดู ภายหลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเมื่อ Facebook อนุญาตแล้วสถานะจะกลายเป็น Active และก็เมื่อจบแคมเปญแล้วสถานะจะกลายเป็น Completed เป็นขั้นตอนสุดท้าย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *