ดูหนัง Harry Potter and the Goblet of Fire (2005) เต็มเรื่อง

ดูหนัง Harry Potter and the Goblet of Fire (2005) เต็มเรื่อง

ดูหนัง Harry Potter and the Goblet of Fire (2005) เต็มเรื่อง มิตรภาพและการทรยศ: ภาพยนตร์เรื่องนี้สำรวจความตึงเครียดในมิตรภาพของแฮร์รี่และรอน เนื่องจากแรงกดดันภายนอก เช่น ความอิจฉาริษยาและการแข่งขันเองที่ทำให้เกิดความตึงเครียด ความเครียดนี้เห็นได้ชัดเจน โดยเพิ่มชั้นอารมณ์ให้กับเรื่องราว บทบาทของเฮอร์ไมโอนีในฐานะคนกลางและเพื่อนที่คอยช่วยเหลือกลายเป็นเรื่องสำคัญ โดยแสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของทั้งสามคนแม้จะเผชิญกับความยากลำบากก็ตาม

การกลับมาของโวลเดอมอร์ตและการตอบสนองของโลกแห่งเวทมนตร์: การเปิดเผยการกลับมาของลอร์ดโวลเดอมอร์ตทำให้เกิดความสั่นสะเทือนไปทั่วโลกแห่งเวทมนตร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความสงสัยและการปฏิเสธของผู้ใหญ่หลายคน โดยเน้นย้ำถึงความไม่เต็มใจที่จะยอมรับการกลับมาของเจ้าแห่งศาสตร์มืด สื่อที่สื่อมองว่าแฮร์รี่เป็นคนโกหกยิ่งทำให้เขาโดดเดี่ยวมากขึ้น โดยสื่อถึงความท้าทายที่เขาจะเผชิญในภาพยนตร์เรื่องต่อๆ ไป

การสูญเสียและการเสียสละ: ดูหนัง Harry Potter and the Goblet of Fire (2005) เต็มเรื่อง  การเสียชีวิตของเซดริก ดิกกอรี่ด้วยน้ำมือของการเกิดใหม่ของลอร์ดโวลเดอมอร์ตเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เพิ่มโทนมืดมนให้กับภาพยนตร์ การตายของเซดริกเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นจริงอันโหดร้ายของโลกเวทมนตร์และการเสียสละในการต่อสู้กับความมืด ผลกระทบของการสูญเสียครั้งนี้สะท้อนไม่เพียงแต่ผ่านตัวละครเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงจิตสำนึกโดยรวมของชุมชนผู้วิเศษด้วย

การกลับคืนสู่อำนาจของโวลเดอมอร์ต: ราล์ฟ ไฟนส์ แสดงการแสดงอันเยือกเย็นในบทลอร์ดโวลเดอมอร์ต ซึ่งรวบรวมเอาความชั่วร้ายเข้าไว้ด้วยกัน ฉากการฟื้นคืนชีพในจุดสุดยอดทำให้โวลเดอมอร์ตกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ทำให้เกิดความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นซึ่งจะเป็นตัวกำหนดภาพยนตร์เรื่องต่อๆ ไป เดิมพันถูกยกขึ้น และการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่วก็ใกล้เข้ามามากขึ้น

เพลงประกอบและภาพ: เพลงประกอบภาพยนตร์ที่แต่งโดยแพทริค ดอยล์อีกครั้ง ช่วยเติมเต็มความเข้มข้นและอารมณ์ของการเล่าเรื่อง ท่วงทำนองที่หลอกหลอนและคิวดนตรีอันทรงพลังช่วยเสริมบรรยากาศ ส่งผลให้ได้รับประสบการณ์ที่ดื่มด่ำโดยรวม ในแง่ของการมองเห็น ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงแสดงให้เห็นความมหัศจรรย์และอันตรายของโลกเวทมนตร์ด้วยสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่น่าประทับใจและภาพยนต์ที่น่าหลงใหล

มรดกและผลกระทบ: “แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี” ถือเป็นบทสำคัญในซีรีส์ภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ โดยเชื่อมโยงความไร้เดียงสาของปีก่อนๆ ด้วยธีมที่เข้มกว่าและเป็นผู้ใหญ่กว่าซึ่งเป็นลักษณะของภาคต่อๆ ไป ความสำเร็จเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถของแฟรนไชส์ในการพัฒนาและดึงดูดผู้ชมทุกวัย และทำให้ตำแหน่งของแฮร์รี่ พอตเตอร์แข็งแกร่งขึ้นในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์

ดูหนัง Harry Potter and the Goblet of Fire (2005) เต็มเรื่อง

ดูหนัง Harry Potter and the Goblet of Fire (2005)

บทสรุป: ในฐานะภาพยนตร์เรื่องที่สี่ของซีรีส์ “Goblet of Fire”

นำทางความสมดุลอันละเอียดอ่อนระหว่างวัยรุ่นและความมืดมิดที่ใกล้เข้ามา ทำให้ผู้ชมแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ รอคอยความท้าทายและการเปิดเผยที่จะกำหนดชะตากรรมของแฮร์รี่เมื่อเผชิญหน้ากับโวลเดอมอร์ตที่ฟื้นคืนชีพ ด้วยความลึกทางอารมณ์ ความซับซ้อนของธีม และความฉลาดทางภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงสานต่อประเพณีในการนำเจ.เค. โลกมหัศจรรย์ของโรว์ลิ่งมีชีวิตบนจอภาพยนตร์

เรื่องแรกที่ผู้รีวิวต้องการพูดถึงก็คือการปรากฏตัวของอีกสองสถานศึกษามนตร์ที่ช่วยทำให้พวกเราทราบว่า Hogwarts ไม่ใช่สถานที่เรียนเวทมนตร์คาถาเพียงแค่ที่เดียวในโลกมนตร์ แต่ว่าภายนอกโน่นยังมีสถานศึกษาเวทมนตร์คาถาอีกหลายแห่งที่พวกเราไม่ทราบมาก่อน

โดยในภาคนี้พวกเราจะได้มองเห็นผู้เรียนแล้วก็คุณครูทั้งยังจากวิทยาลัยมนตร์ Beauxbatons แล้วก็สถาบันมนตร์ Durmstrang ซึ่งก็เป็นที่โชคร้ายมากมายที่ด้วยข้อแม้ทางด้านเวลาทำให้พวกเราไม่อาจจะมองเห็นเนื้อหามากราวกับที่พวกเรามองเห็นในหนังสือได้ แต่ว่าก็ถือได้ว่าเป็นความสดใหม่ที่พวกเราไม่เคยมองเห็นมาในหนังภาคก่อนหน้าเลยคะ ส่วนตัวผู้รีวิวเลยมีความคิดว่าการมีเรื่องมีราวราวของสถานที่เรียนอื่นเข้ามาเพิ่มเป็นการเพิ่มอีกเรื่องราวที่ดีเลยล่ะ

ในภาคนี้ นักแสดงที่แฟนคลับรักทุกตัวก็ยังอยู่กันครบจ้ะ แถมภาคนี้ยังเป็นภาคที่คนอีกจำนวนไม่น้อยชูให้เป็น “ยุคทอง” ของเหล่าผู้แสดงอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายหนุ่ม Daniel Radcliffe หรือไอ้หนุ่ม Harry Potter ของพวกเราที่ดูเหมือนจะมีออร่าเฉิดฉันสุดๆในภาคนี้ แต่ว่านอกจากผู้แสดงที่พวกเรารู้จักดีกันอยู่แล้ว ภาคนี้ก็ยังมีตัวละครใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติมอีกมากมายเลยนะ ซึ่งหลายๆตัวก็จะแปลงเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีความหมายในภาคต่อๆไปของแฟรนไชส์อีกด้วย อย่าลืมเฝ้าดูให้ดีเลยจ๊าค่ะ

ดูหนัง Harry Potter and the Goblet of Fire (2005) เต็มเรื่อง ในวันจับรายนามคนที่มีสิทธิ์ลงแข่งขัน ได้รายนามของสามคนมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเช่น เซดริก ดิกอปรี่ จากฮอร์กวอร์ต , เฟลอร์ เดอรากูร์ จากโบบาตงซ์ รวมทั้ง วิคเตอร์ ครัมซ์ จากเดิร์มสแตงซ์ แต่ว่าสิ่งที่น่าตกใจก็เกิดขึ้น เนื่องจากว่าจู่ๆถ้วยก็ปรากฎชื่อของอีกคนเป็น แฮร์รี่ ให้ร่วมการประลองด้วย สิ่งนี้ทำให้เกิดความระส่ำระสายแล้วก็ฉงนสงสัยให้ทุกคนมากมาย เนื่องจากว่าเส้นอายุขัยที่ ดัมเบิลดอร์ (Michael Gambon) ศ.จ.ใหญ่ของฮอร์กวอร์ตได้ขีดไว้ ไม่มีวันที่เด็กอายุต่ำลงยิ่งกว่า 17 จะลวงตาได้

แล้วก็ได้ความเห็นชอบว่า ให้แฮร์รี่ลงแข่งขันด้วย แล้วก็ความเกี่ยวพันของรอนกับแฮร์รี่ก็ห่วยแตกลง เพราะว่ารอนมัวแต่รู้สึกว่าแฮร์รี่ทำลงไปเพราะเหตุว่าต้องการเป็นวีรบุรุษ และไม่คิดจะบอกกันบ้างถึงแม้ว่าแฮร์รี่จะพากเพียรชี้แจงก็ตาม รวมทั้งเฮอร์ไมโอนี่ก็ห่างออกไปด้วยเหมือนกัน และก็โน่นทำให้แฮร์รี่สันโดษ ด้วยเหตุว่าเค้าไม่เหลือคนใดเลย เพื่อนฝูงก็มีความรู้สึกว่าเค้าโป้ปดมดเท็จ

การประลองเวทย์สนธิสัญญาไตรภาคีด่านที่ 1มังกร ผู้ต่อสู้จะได้รับภารกิจให้ไปชิงไข่มาจากมังกร ซึ่งมังกรแต่ละตัวจะมีบทบาทเฝ้าไข่

การประลองเวทย์สนธิสัญญาไตรภาคีที่ด่านที่ 2 นางเงือก ผู้ทดสอบจะได้รับภารกิจให้ไปช่วยเหลือผู้ที่ตนเองรัก ซึ่งโดนจับไปเป็นตัวรับรองใต้น้ำ

การประลองเวทย์สนธิสัญญาไตรภาคีด่านที่ 3 เขาวงกต ผู้ต่อสู้จำต้องเดินทางในเขาวงกต แล้วก็ตามหาถ้วยรางวัลให้พบก่อนที่จะหมดเวลา

พวกเรามาว่ากันถึงตัวหนังล้วนๆก่อนครับ ซึ่งถ้าเกิดถามคำถามว่าดีมั้ย

ก็จำเป็นต้องตอบว่าดีล่ะฮะ ผมว่าเยี่ยมที่สุดในบรรดา 4 ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเลยล่ะ แต่ว่าไอ้ที่ว่าดีนี่มีจุดที่ด้อยอยู่เช่นเดียวกัน เอ้า พวกเรามาว่ากันครั้งละอย่างเลยจ๊าขอรับ ขอเริ่มจากจุดบกพร่องก่อนแล้วกัน ซึ่งจะว่าไปก็มีอยู่เพียงแค่อันเดียวเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นสำคัญมากที่สุด รวมทั้งคือปัญหาเดียวกับที่ภาค 3 เป็นมาแล้วโน่นเป็น เนื้อหาที่หายนะ

อันนี้ผมก็ทำใจไว้แล้วล่ะ เนื่องจากว่านิยายมันดกอ้ะ ภาคก่อนครึ้มน้อยกว่าเนื้อหายังตกไปตั้งบานแน่ะ แล้วภาคนี้ครึ้มขึ้นจะให้มันครบได้อย่างไร ซึ่งโอเค รู้เรื่องครับผมว่ามันทำให้ครบมิได้หรอก ถ้าเกิดอยากที่จะให้ครบนี่คงจะจะต้องสร้างเป็นซีรี่ส์กันเลยล่ะมั้ง

ด้วยเหตุนี้จะว่าไปผู้ที่อ่านมาแล้วคงจะบันเทิงใจมากยิ่งกว่าผู้ที่ยังมิได้อ่านครับ เพราะเหตุว่าจะรู้ที่มาที่ไปอะไรมากยิ่งกว่าพวกเรา ผู้เป็นตัวโง่เขลาที่ไม่รู้จักอะไรเล้ย มองไปได้แต่ว่าสะดุดเล็กๆในใจน่ะนะครับ ว่าแต่ว่าละฉากมันคงจะมีอะไรมากยิ่งกว่านี้นะ แต่ว่ามันไม่ทราบนี่หว่า (ตกลงใจแล้วครับผม ภายหน้าก่อนมองผมจะอ่านแล้วล่ะ จะได้ยุติปัญหาประเด็นนี้ซะหน )

ผู้แทนนักกีฬาทั้งยังสี่คนมีบทบาทจะต้องฝ่าฟันภารกิจ 3 ด่านเพื่อเข้าไปต่อสู้ถ้วยไฟ ศักดิ์ศรีชั่วฟ้าดินสลายที่ใครๆต่างใฝ่ฝัน ด่านอีกทั้ง 3 ที่แต่ละคนจำต้องพิสูจน์ ด่านแรกเป็นเหมือนบททดลองของความกล้าหาญชาญชัย ด่านลำดับที่สองแปลงเป็นบททดลองของความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เวลาที่ด่านในที่สุด

เป็นบททดลองที่ศัตรูมิได้มาจากด้านนอก ศัตรูที่น่าสยองที่สุดเป็นดวงใจของพวกเราเอง ที่จะยอมมนต์สะกดใจที่เป็นกิเลสหวังครอบครองความมีชัยมาครอบครองหรือเปล่า เป็นศัตรูที่พวกเขาจะต้องพบในชีวิตจริงที่จะไม่ใช่แค่การประลองคราวนี้ การเอาชนะหัวใจตนเองและก็การเสียสละ เขาวงกตที่สลับซับซ้อนก็ไม่ได้แตกต่างกับจิตใจของผู้คน

สำหรับเรื่องราวของ ดูหนัง Harry Potter and the Goblet of Fire (2005) เต็มเรื่อง เล่มที่อ่านแล้วให้ความรู้ความเข้าใจสึกจับใจเยอะที่สุดเป็นเล่ม 3 ในเวลาเดียวกัน ถ้าเกิดจะมีเล่มไหนที่ผมมีความรู้สึกว่ามันเหมาะสมกับการผลิตเป็นหนังที่สุดก็อาจจะจะต้องเป็นเล่มนี้ เพราะเหตุว่าตัวอักษรมีฉากที่เชิญให้ตื่นเต้นแล้วก็น่าติดตามอยู่เป็นช่วงๆมีฉากแอคชั่นที่คงจะทำออกมาได้อย่างน่าเร้าใจ

นอกเหนือจากนี้เท่าที่ผมนึกออกจากการอ่านหนังสือในขณะที่มันออกมาใหม่ๆเล่มนี้มีการเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น เป็นตอนที่อ่านแล้วรู้สึกสนุกสนานตลอดทั้งเล่ม ไม่ราวกับบางภาคที่ตอนกลางจะพองๆและจากนั้นก็อยากที่จะให้ถึงหน้าข้างหลังไวไวเพื่อจะได้มองว่าหักมุมอย่างไร

แม้กระนั้นเล่มนี้ ความบริสุทธิ์ในวัยเด็กเริ่มที่จะเปลี่ยน จากโลกของเด็กกำลังจะหมุนแปลงเป็นโลกของคนแก่ พวกเขาเริ่มมีความรู้สึกที่มากไปกว่ามิตรภาพ เริ่มมีความรักที่เด่นชัดขึ้น (แฮปรี่ กับ โชแชง , รอน กับ เฮอไมโอนี่) เริ่มมีความอิจฉาริษยา ความน้อยใจของรอน การแข่งขันชิงชัยเพื่อหวังจุดหมายอย่างถ้วยอัคคี การที่จะศึกษาจะชีวิตที่ลึกซึ้งมากเพิ่มขึ้น ไปจนกระทั่งการรู้จักเรื่องของความตายที่เป็นของจริง ทำให้เป็นภาคที่เข้มข้นพอดีในหลายๆส่วนประกอบ

ภาค 4 นี้ ผู้แสดงก้าวเข้าสู่วัยรุ่นกันแล้ว เริ่มว้าวุ่นนิดๆด้วยทาง ฮอกวอตร์

ดูหนัง Harry Potter and the Goblet of Fire (2005) เต็มเรื่อง

จะเป็นเจ้าภาพแข่งขันสนธิสัญญาไตรภาคี ที่ 3 สถานที่เรียนจะต้องมาแข่งขัน และก็มี 1 เดียวเพียงแค่นั้นที่จะเป็นแชมป์ แต่ว่าแล้ว แฮร์รี่ ซี่ง อายุไม่ถึงเกที่กับมีชื่อลงแข่งขันด้วย กระตุ้นให้เกิดเรื่องยุ่งๆอีกทั้งการประลอง จำต้องผ่านด่านมังกร ช่วยเหลือเพื่อนรักในทะเลสาบ แล้วก็เขาวงกตมรณะ เป็นด่านท้ายที่สุด ระหว่างแข่งขันก็มีเรื่องมีราวหลงผิดกับรอนแต่ว่าก็เคียร์กันได้ อีกทั้งเรื่องขอสาวไปงานเต้นรำ รวมทั้งที่สำคัญ ผู้ที่คนก็รู้ว่าคนใดกำลังจะกลับมา

จะต้องบอกเลยว่าภาคนี้ดูดีที่สุดในบรรดา แฮปรี่ทั้งผอง ทั้งยังความสนุกสนานฉากแอคชั่นที่เยอะขึ้นเรื่อยๆ การลุ้นในแต่ละภารกิจ แต่ว่าที่เด่นเป็น เฮอไมโอนี่ที่โตขึ้น รวมทั้งงามมากมายแจ้งกำเนิดเลย ที่สำคัญส่วนท้ายลอดมืดกลับมาอีก น่าสยองสุดๆนักแสดงเฟชดริช หรือ ลอดดี้ ก็เด่นเหมือนกัน โดยรวมนับว่ามีสีสรรที่สุด

Harry Potter เป็นภาพยนตร์ที่ผู้ชมน้อยคนจะเข้าไปดูโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวมาก่อน

การผลิตภาพยนตร์ชุดนี้ก็เลยมีปัญหาที่ยากอยู่ที่ว่า จะสร้างภาพยนตร์เช่นไรให้ออกมาชื่นชอบทั้งยังแฟนลูกค้าขาประจำ รวมทั้ง ผู้ที่มิได้อ่านหนังสือ เนื่องจาก คุณสมบัติที่ดีข้อหนึ่งของหนังที่ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงจากหนังสือหมายถึงทำเช่นไรให้ผู้ที่มิได้อ่านหนังสือบันเทิงใจไปกับหนังได้ ไม่ใช่ความสนุกสนานจะเกิดขึ้นจากการที่จำเป็นต้องอ่านหนังสือมาก่อน หรือ กว่าจะบันเทิงใจจะต้องกลับไปอ่านหนังสือเพื่อขยายความ

โดยเหตุนี้การดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขวรรณกรรมที่กิตติศัพท์เลื่องลือ

ก็เลยเป็นการเสี่ยงรวมทั้งจะต้องอาศัยความอาจหาญ ว่าจะผู้ผลิตจะตกลงใจตัดตอนไหนทิ้งแล้วก็จะเปลี่ยนแปลงตอนไหนบ้าง สล็อต เนื่องจากการตัดนิดหน่อยออกอาจจะเป็นผลให้แฟนหนังสือที่ถูกใจส่วนนั้นไม่สบอารมณ์

โน่นก็เลยทำให้หนังบางเรื่องสร้างแบบปกป้องตัวเองเป็นไม่เพียรพยายามปรับเปลี่ยนอะไรเลยแต่ว่ายกตัวหนังสือมาทุกกระแบะมือนิ้วอย่าง Harry Potter and the Sorcerer’s Stone ที่เป็นตอนที่ผมถูกใจต่ำที่สุด ผู้ผลิตเกือบจะมิได้ปรับปรุงแก้ไขอะไรจำพวกที่เรียกว่ายกหนังสือมาขึ้นหน้าจอหนัง

การเลือกสร้างแบบงี้อาจจะส่งผลให้แฟนพันธ์แท้หรือผู้ที่ถูกใจหนังสือมากมายๆที่เกลียดให้มีการดัดแปลงแก้ไขกรรมพันธุ์คำกลอนถูกใจเพราะเหตุว่าอยากมองเห็นทุกสิ่งในหนังสือออกมาบนหน้าจอ แม้กระนั้นมันก็ทำให้ผู้ชมอย่างผมที่ต้องการดูหนังมากยิ่งกว่าอ่านหนังสือในโรงภาพยนต์รู้สึกเบื่อ

ปัญหาบิ๊กๆของหนัง แม้กระนั้นถึงถ้าอย่างนั้นก็เหอะ ตัวหนังภาคนี้ก็ยังนับว่าบันเทิงใจที่สุดอยู่ดี เพราะเหตุว่าหากแม้เนื้อหาจะขาดๆอารมณ์จะมีสะดุดบ้าง แม้กระนั้นตัวหนังเองก็ยังถือว่าลื่นไหลไม่น้อย เพราะเหตุว่าจะมีจุดเสียอย่างที่กล่าวไปก็เหอะ

แม้กระนั้นคณะทำงานก็อุตสาหะเลียนแบบอื่นมาช่วยหนังอย่างมาก เริ่มจากกลุ่มผู้แสดงที่พอดีและก็ความสามารถลงล็อคกันหมดแล้วขอรับ ไม่ว่าจะ Radcliffe ที่ทำเป็นดียิ่งขึ้นเรื่อยในบทแฮร์รี่, Rupert Grint ก็ทำให้บทรอนของเขามีมิติและก็น่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น ซึ่งพีแ่กก็เป็นตัวฮาอย่างที่เคยครับผม แต่ว่าภาคนี้เขายังได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *