ดูหนัง โรงเรียนคาทอลิก (2022) เต็มเรื่อง Full HD 24 ช.ม.

ดูหนัง โรงเรียนคาทอลิก

ดูหนัง โรงเรียนคาทอลิก กรุ๊ปนักเรียนผู้ชายที่สถานศึกษาโรมันคาทอลิกในโรมตอนปี 1970 ต่างจะต้องทุกข์ทนภายใต้กรอบศาสนาที่เคร่ง รวมทั้งหน้าที่ทางเพศที่เคร่งครัด จนกระทั่งบางบุคคลหันไปใช้แนวทางการที่ป่าเถื่อนเกินยกโทษ หนังอาชญากรรมกรุ๊ปเด็กหนุ่มสาวไร้มนุษยธรรมที่ผลิตขึ้นจากเรื่องจริงแล้วมองดูไม่สนุกเท่าไร

เพราะว่าเรื่องเฉื่อยๆเยอะแยะกับลงรายละเอียดปัญหาตามทางของชุมชนกับสถานที่เรียนคาทอลิค ที่มานะพยายามกดทับปัญหาต่างๆไว้ภายใต้คำกล่าวสอนศาสนา ก่อนถึงอาชญากรรมอำมหิตที่เป็นจุดขายข้างหลังเรื่องที่มองดูทารุณจริง แต่ก็ไม่ต่างอะไรจากคดีเลวทรามทั้งหลายในบ้านเรานัก จนกระทั่งดูแล้วเศร้าใจเศร้าสลดใจเฉยๆเท่านั้นเอง

แต่ว่าคงจะจำเป็นต้องบอกตรงๆว่า Awareness แปลงเป็นหนังแอคชันไซไฟที่ออกจะเข้าขั้นให้อารมณ์น่าระอา หนังแทบจะไม่มีรสชาติอะไรก็ตามเลย เต็มไปด้วยความซ้ำไปซ้ำมา ดูหนัง โรงเรียนคาทอลิก ไม่มีคุณลักษณะเด่นที่น่าละลานตาและก็เรียกความพอใจได้ พล็อตก็ราวกับๆกับหนังคนพลังเหนือมนุษย์ที่พวกเราต่างเคยได้เห็นเคยมองกันในหนังเยอะมากหลายเรื่องในตอน 10-20 ปีให้หลังนั่นแหละ

ถึงแม้ว่าคอนเซ็ปต์พลังพิเศษสำหรับเพื่อการสร้างภาพตบตาแล้วก็มิติภาพต่างๆของนักแสดงหลักจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะน่าดึงดูด แม้กระนั้นหนังก็ยังล้มเหลวสำหรับในการสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นแล้วก็ความพอใจให้ผู้ชมเชื่อตามได้ตลอดทั้งเรื่อง เพราะว่ารายละเอียดซึ่งสามารถเบี่ยงบ่ายให้เลิกพึงพอใจได้อยู่เสมอเวลา กับการฉายภาพนิมิตรเก่าๆใหม่ๆสลับกันอยู่เรื่อยที่ลำดับการเล่าเรื่องที่ชักชวนอยากนอนดีจริง

The chilling true story of The Catholic School comes to life in Netflix film

ดูหนัง โรงเรียนคาทอลิก เต็มเรื่อง

หนังเรื่องนี้เป็นหนังโรงฉายที่อิตาลีมาตั้งแต่ตุลาปี 2021 ทาง Netflix พึ่งได้เอามาฉายในระบบ ซึ่งก่อนดูคิดว่าเรื่องน่าจะเจาะลึกคดีโหดร้ายแบบละเอียดหน่อยว่าเป็นยังไง ถึงแม้ว่าการดำเนินเรื่องจริงกลับเฉื่อยๆสุดๆด้วยการเบาๆปูเรื่องราวของสถานที่เรียนกับชุมว่าเคร่งศาสนา มีระบบระเบียบระเบียบปฏิบัติกระจ่างแจ้ง แม้กระนั้นเป็นเสมอเหมือนแค่เพียงกฎที่ตั้งไว้เพื่อผู้เรียนอุตสาหะแหก

ด้วยเหตุว่าเรื่องราวเผยให้แลเห็นด้านมืดของเด็กนักเรียนที่เอาความเคร่งศาสนามารังควานหาบูลลี่ผู้เรียนด้วยกัน อย่างการเฆี่ยนตีเพื่อทรมาทรกรรมมิตรสหายแบบพระเยซูคริสต์โดน ซึ่งจริงๆแล้วเป็นความเหยเกของตัวนิสัยเด็กกลุ่มนี้เองตรงๆมากกว่า ตัวเรื่องอุตสาหะชี้ให้เห็นว่าโรงเรียนกับศาสนาที่ครัดเคร่งก็ไม่ได้ทำให้ความชั่วช้าสารเลวต่ำช้าหายไป เพียงแค่กดทับมันไว้กระทั่งมันจะระเบิดออกมาเพียงเท่านั้น

ตัวเรื่องยังนำเสนอปัญหาด้านครอบครัวที่เกิดขึ้นตามมาด้วย โดยเป็นปัญหาอีกทั้งเรื่องความรุนแรงที่พ่อทำต่อลูก แล้วก็กับหลายๆอย่างที่เหมือนกับเป็นการลงโทษเด็กในครอบครัวปกติสมัยก่อน แต่แปลงเป็นว่าเด็กเองก็เก็บกดแล้วหาที่ลงไม่ได้จนถึงกลายเป็นจำเป็นที่จะต้องไปลงกับบุคคลอื่นต่อไปเป็นทอดๆซึ่งแปลงเป็นสาเหตุของคดีอาชญากรรมในด้านข้างหลังเรื่อง

ด้านหลังเรื่องเดินมาชั่วโมงกว่าก็เผยให้เห็นฉากทารุณโหดร้ายจากข้อเท็จจริง ซึ่งก็คือนักเรียนชาย 4 คนที่พานักเรียนหญิงในสถานที่เรียน 2 คนมากักขังขืนใจบำเรอกามตลอดผ่านวัน พร้อมกับทรมาทรกรรมตบตีตราบจนกระทั่งใบหน้าเปรอะเปื้อน ก่อนที่จะคิดแผนฆ่าทิ้ง ซึ่งเป็นฉากเลวทรามแบบเปลือยติดเรโคลนองมองเห็นอะไรหมดทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง รุนแรงเหี้ยมโหดเยอะแยะ แม้กระนั้นหนังก็ตัดจบง่ายแบบตำรวจมาจับได้ในเวลาไม่นานด้านหลังพบรถยนต์ที่ถูกเอามาทิ้งไว้แล้วก็มีศพข้างหลังรถยนต์

ก่อนจะเรื่องจะเผยต่ออีกนิดว่าคดีนี้ทำให้ชุมชนคริสต์นี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง คนสงสัยต่อกัน และส่งผลสรุปช่วงท้ายให้มีความคิดเห็นว่าผู้เรียนทั้ง 4 ได้รับโทษจำคุกชั่วชีวิต แม้กระนั้นข้อปฏิบัติก็ลดหย่อนโทษตราบจนกระทั่งติดราวอายุ 40 ปี แม้กระนั้นบางคนออกมาก่อนถึงแม้เป็นผู้ต้องขังทำตัวดี แม้กระนั้นก็ก่อคดีฆ่าขืนใจตลอดอีกหลังจากนั้น เช่นเดียวกันกับจะย้ำให้มีความเห็นว่านิสัยของคนเป็นอย่างไร ตารางหรือศาสนาก็ไม่ได้แก้ไขปัญหานี้ได้หมด

ในเวลาที่กลุ่มดาราก็มั่นใจว่าพวกเขาก็พากเพียรแงะความถนัดและก็ความเป็นมือโปรออกมาอย่างมากแล้ว เพียงบทหนังกับความเชยของตนเองที่ใส่เข้ามา มิได้ผลักดันด้านการแสดงมากมายสักเท่าไหร่ ทำให้ส่วนประกอบด้านแอคติ้งของหนังหัวข้อนี้ออกมาค่อนข้างจะแข็งและก็ยังไม่ยุติธรรมชาติสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “คาร์ลอส โชลซ์” กับ “มาเรีย เปดราซา” ที่ถือได้ว่าเป็นดาวรุ่งยุคนี้ของประเทศสเปน ดูหนัง โรงเรียนคาทอลิก แม้กระนั้นหนังทำให้พวกเขาออกมาได้จืดชืดสนิทไปเลย

ด้วยเหตุนี้ในรูปภาพรวมแล้ว Awareness หนังบู๊ไซไฟจากประเทศสเปนหัวข้อนี้ สรรค์สร้างออกมาได้ค่อนข้างจะไม่มีเสน่ห์และก็มนต์ขลังอะไรก็แล้วแต่ด้วยจับพรีเซนเทชั่นในทำนองเพลงที่มิได้น่าดึงดูดอะไรมากแค่ไหน ถึงแม้คอนเซ็ปต์จะออกจะใช้ได้ แต่ว่ากรรมวิธีการเล่ารวมทั้งจัดแจงในส่วนประกอบต่างๆยังทำออกมาได้ไม่เข้ามือ เต็มไปด้วยความจืดจางแล้วก็ความเชยไปแทบทั้งหมด ถือว่าเป็นที่บางครั้งอาจจะไม่สามารถที่จะเหนี่ยวรั้งให้ผู้ชมอยู่กับหัวข้อนี้ได้ทั้งยังเรื่องได้ในระยเวลาเกือบจะ 2 ชั่วโมงที่่ผ่านไปช้าเสียจริงของหนัง

รีวิว The Catholic School (2022)

เมื่อการเป็นวัยรุ่นดีๆมันขมคนชอบดูหนังมีความยาว 1 ชั่วโมง 47 นาที รับมองได้แล้วทางช่อง netflix หัวข้อนี้ผลิตจากเรื่องจริงของโรงเรียนชายล้วนของโรมันคาทอลิกสามคนที่ก่อเหตุช็อกโลกในปี 1975 ที่มองดูจบมีหมดกำลังใจแล้วก็เจ็บถ่วงหัวใจแน่นอนยิ่งผลิตขึ้นจากความเป็นจริงแล้ว​ ดูแลโดยผู้กำกับ​ Stefano Mordini นำแสดงโดย​ Luca Vergoni, Ludovico Tersigni, Francesco Cavallo, Guido Quaglione, Giulio Pranno

เล่าราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนชายล้วนของชนชั้นกลางที่มีอาจารย์ทุกคนที่สอนในคลาสเรียนเป็นบรรพชิต ไปจนถึงอาจารย์ใหญ่ก็เป็นบรรพชิตโรมันคาทอลิก จุดเกิดเหตุการณ์ผู้เรียนสามคนก่อโศกการแสดง​ตราบจนกระทั่งนำความทรุดโทรมเกียรติด้านในสถานที่เรียน

เป็นหนังอิตาลีที่มีการคุมโทนของเรื่อง จัดเส้นและจากนั้นก็สีของภาพได้ออกมามีระบบระเบียบรวมทั้งทำให้คุณภาพภาพในหนังดูสวยอย่างยิ่งมีการเล่านิ่งๆเนิบๆset ฉากไปที่ปี 1975 ยุคที่ความรุนแรงเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ โดยรวมก็เป็นหนัง coming of age ที่ไม่มีอะไรชัดแจ้งสักอย่างของวัยรุ่นผู้ชายที่อยู่ในตอนงงและกำลังค้นหาตัวเอง การเล่าเรื่องค่อนจะงงๆและก็การตัดต่อก็ไม่ค่อยปะติดปะต่อกันมากไม่น้อยเลยทีเดียวมากมายสักแค่ไหน ดูไปตอนแรกๆรู้สึกอยากนอนมหาศาล

แม้กระนั้นพอควรไปกึ่งกลางเรื่องอะ รื้นเริงเลยจ๊า เพลงประกอบที่ใส่เข้ามาในเรื่องก็กับความรู้สึกของนักแสดงในเรื่องแล้วก็ยุค 90s ด้วย การเดินเรื่องราวไม่ค่อยปะติดปะต่อกันจำเป็นที่จะต้องไปแปลความกันเอาเองแต่สมรรถนะงานหนังค่อนจะอาร์ทรวมถึงสวยพอเหมาะ ดูได้เพลิดเพลินใจๆนะ แรกๆผู้เขียนมีความรู้สึกว่าหนังจะมาแนวเด็กหนุ่มสาวหัวร้อนแกล้งเพื่อนพ้องที่เป็นเกย์จนตาย หรือมีปัญหาขัดใจกันคีย์บอร์ดระเบิดแต่ปืนตกน้ำเนื่องจากใจร้อน ถึงแม้ไม่ใช่เลย ความกล้าหาญชาญชัยของเด็กนักเรียนชายสามคนในเรื่องแดนนรกกว่านั้นเยอะมาก ทำเรื่องแย่ๆแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยและไม่มีเหตุผลอะไรเลย

ผลลัพท์ที่เด็กสามคนนี้ได้รับก็สมกับพฤติกรรมของตัวเองแล้วจ้ะตอนเฉลยคำตอบทุกอย่างถึงกับบางอ้อเลยเพราะไม่คิดว่าจะมาแนวนี้ ปูทางไปให้เดาเป็นแบบอื่นตลอดทั้งเรื่อง ความสนุกกึ่งกลางมองดูได้เรื่อยๆนะ มีความคิดว่าปัญหาในเรื่องเป็นปัญหาใหญ่ที่แอบเครียดของคนในสังคมเลย

ยิ่งกว่านั้น คอนเซ็ปต์ที่ออกจะเชยของหนังแล้ว Awareness ยังมากับจังหวะหนังที่ค่อนข้างจะล้าหลัง เกือบจะขยี้ตามองว่า นี่เป็นหนังปี 2023 ใช่หรือไม่ เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ฉากและก็ส่วนประกอบต่างๆในหนังนั้น ดูราวกับว่ากับหนังในตอนต้นสมัยปี 2000 ไปจนกระทั่งใจกลาง ตอนที่แวดวงหนังเพิ่งตื่นเตันกับพลังเอ็กซ์เมน หรือ ละลานตากับโลกของแมททริค มาไม่นานเอง

โดยยิ่งไปกว่านั้นงานดีไซน์ฉากบู๊ต่างๆของหนัง Awareness ออกจะตกยุคสมัยใหม่ อาการแล้วก็มุมกล้องถ่ายรูปอะไรต่างๆช่างเป็นการแสดงแบบการแสดงขมักเขม้นเสียอย่างยิ่ง มองอย่างไรก็เห็นได้ชัดว่าเป็นการแสดงที่จัดบล็อกกิงเอาไว้อย่างดีเยี่ยม เป็นการออกลีลาท่าทางที่ไม่ยุติธรรมดา ไม่มีชีวิตชีวา แต่ว่าเดินตามคอนเซ็ปต์ไปอย่างน่าเอือมระอาไปหมด

The Catholic High School

รีวิวหนัง “มนต์รักนักบรรยาย” จดหมายรักแห่งหนังไทย นี่แหละอีกหนึ่งประสิทธิภาพของปี!

ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์หนังที่ทำให้คนชอบดูหนังไทยจำเป็นต้องหูผึงขึ้น เมื่อมีข่าวสารงานสร้างภาพยนตร์ไทยที่ชื่อว่า “มนต์รักนักบรรยาย” ดูหนัง โรงเรียนคาทอลิก ด้วยเหตุว่าเพียงแค่ได้ยินชื่อกลุ่มผู้แสดงและก็กลุ่มผู้ผลิตก็สามารถอุ่นใจได้พอสมควรแล้ว รวมทั้งนี่เป็นภาพยนตร์ไทยที่ไม่ต่างอะไรจากการนำผู้ชมย้อนกลับไปสู่วันวานที่การนึกถึงของแวดวงภาพยนตร์ไทย ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่หาดูมิได้อีกแล้วในทุกวันนี้

มนต์รักนักบรรยาย เกิดเรื่องราวในปี พุทธศักราช 2513 สมัยที่ มิตร ชัยบัญชาการ เป็นดาราที่กำลังดังที่สุด และก็ยังเป็นเสมอเหมือนเครื่องยึดเหนียวจิตใจของกรุ๊ปนักบรรยายบนรถยนต์เร่ขายยาหน่วยที่ 18 ของบริษัทยายารักษาโรคเทวดาที่เรียกลูกค้าด้วยการฉายและก็พากย์กลางแปลง พวกเขาจำต้องพบเจอกับความท้าในสมัยที่แวดวงภาพยนตร์มาถึงการเปลี่ยนผ่าน โดยที่ทั้งยัง 4 ชีวิตในกลุ่มจำเป็นต้องต่อสู้ความท้าจำนวนมากเพื่อมุ่งไปให้ถึงฝั่งฝัน

นี่นับว่าเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องที่เผ้าคอยรอมานับเป็นเวลาหลายปี เพราะเหตุว่าเป็นการกลับมาจับจับสร้างภาพยนตร์อีกรอบของผู้กำกับระดับชั้นคุณครูของไทย อย่าง “อุ๋ย-นนทรีย์ ไม่นิลูก” ที่ค้ำประกันงานสร้างและก็โปรดักชันที่เชื่อใจได้ในระดับที่อุ่นใจ ทั้งยังจากผลงานและก็ประสบการณ์ก่อนหน้าที่ผ่านมาของผู้กำกับท่านนี้ แล้วผลงานชิ้นนี้ก็น่าจะเป็นมาสเตอร์พีชอีกหัวข้อของเขาเหมือนกัน

มนต์รักนักบรรยาย ได้คนเขียนมีชื่อเสียง “เอก ใหม่ชื่น” (จาก ฟาเรนไฮต์ฮีแลร์ และก็ องค์บาก 2) มารับหน้าที่ปลุกปั้นเรื่องราวคราวนี้ให้ ที่ถือได้ว่าเป็นการถือเอาเสน่ห์ของแวดวงภาพยนตร์ไทยในอดีตกาลมาเปิดเผยขึ้นหน้าจอให้กลับมาเบิกบานใจขึ้นอีกที ยอดเยี่ยมในมนต์เสน่ห์ที่แทบหาไม่พบแล้วในสังคมตอนนี้ แล้วก็ยังอดีตกาลที่คนสมัยก่อนเรียกร้องหา ซ้ำเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหญ่ก็คงจะชอบใจได้อย่างง่ายดาย

ถึงแม้ว่าบทหนังของหนังประเด็นนี้จะมิได้มีอะไรที่แปลกใหม่อะไรสักเท่าไหร่ ยังคงร้อยเรียงเรื่องราวบนฐานรากของสูตรสำเร็จภาพยนตร์ไทยที่รู้จักดี เพียงแต่ว่าการให้รายละเอียดต่างๆในแต่ละจุดนั้น หนังขยี้ออกมาได้ค่อนข้างจะทรงอำนาจ เก็บได้แทบทุกเม็ดของช่วงแล้วก็ยุคสมัย ทั้งยังสร้างมิติของผู้แสดงต่างๆออกมาได้อย่างพอเหมาะพอเจาะแล้วก็เพอร์เฟ็คมากขึ้นเรื่อยๆ

จะต้องยกย่องเลยว่า มนต์รักนักบรรยาย เป็นหนังที่เต็มไปด้วยงานโปรดักชันที่ออกจะตรวจงานได้ละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางแบบฉากต่างๆที่พวกเราไว้ใจผู้กำกับอุ๋ยได้เลย เนื่องจากว่างานของเขาชอบเอาใจใส่ไปถึงส่วนประกอบนิดๆหน่อยๆเกือบจะไม่ให้มีอะไรหลุดออกมา การย้อมหนังให้กลับไปเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา เป็นงานวางแบบที่พอดี อีกทั้งฉากและก็โอบล้อมต่างๆล้วนเป็นสิ่งสำนักงานบ้านมาได้ค่อนข้างจะดี แล้วก็เข้าขั้นเหมาะสมที่สุด

การวางแบบภาพแล้วก็วางแบบมุมภาพของมนต์รักนักบรรยาย ก็น่าประทับใจด้วยเหมือนกัน จากความสามารถของผู้กำกับภาพรุ่นเก๋า-ระดับรางวัล “เปีย-ธีระวัฒน์ รุจินธรรม” (จาก นาคปรก หรือ รักนี้ที่คอย) กล่าวได้ว่ายังคงเก็บเอกลักษณ์งานภาพของเขาเอาไว้ได้อย่างถาวร โดยยิ่งไปกว่านั้นวิธีการใช้แสงสว่างธรรมชาติเข้ามาช่วยเล่า เพิ่มบรรยากาศความละมุนรวมทั้งลึกซึ้งให้กับตัวหนังได้อย่างพอดี

The Catholic School Difference » Catholic Education Diocese of Wollongong

รีวิวหนัง “สัปเหร่อ” หนังไทบ้านที่เอ๋ยถึงความตายได้บริสุทธิ์ใจ เหมาะสมเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติในวันใดวันหนึ่ง

เจิด นิสิตข้อบังคับจะต้องกลับมาปฏิบัติหน้าที่สัปเหร่อแทนบิดาที่เจ็บไข้ ขณะที่เซียงและก็หมู่คณะไทบ้านจำเป็นต้องประจันหน้าวิญญาณเฮี้ยนของใบข้าวที่ตายทั้งยังกลมตั้งแต่หนังภาคก่อน ความรู้สึกระหว่างมองเป็น ทุกปีจะมีเปิดให้เสนอชื่อภาพยนตร์ไทยขึ้นบัญชีเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติ

ส่วนตัวที่ช่วยเหลือกิจกรรมนี้ในทุกปีมีความคิดว่าในอนาคตไม่ว่าใกล้หรือไกล หนังประเด็นนี้คงจะได้ใส่เป็นมรดกของชาติแน่ๆ เนื่องจากว่าคุณประโยชน์สำหรับการบันทึกคติหรือวัฒนธรรมในระยะเวลาหนึ่งที่สมัยเก่าและก็สมัยใหม่ปะทะกันได้อย่างประดิษฐ์น่าดึงดูด แล้วก็ยังเก็บภาพของพิธีการความตายของไทยไว้อย่างที่หนังน้อยเรื่องจะเอ๋ยถึง

ทางด้านการแสดงก็นับว่า มนต์รักนักบรรยาย มีกลุ่มดาราระดับตัวตึงอีกหนึ่งเรื่องอย่างยิ่งจริงๆ “เวียร์ ศุมายากลวัฒน์” สวมวิญญาณมารับหน้าที่นี้แบบที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร ดูหนัง โรงเรียนคาทอลิก เขายังสามารถแปลความหมายนักแสดงออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ โดยที่ยังเป็นตัวของเขาเอง รวมทั้งการแสดงแนวดรามาก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแนวถนัดที่พี่เวียร์สามารถพ่นไฟปลดปล่อยพลังออกมาได้ถึง

ในขณะที่ดาราสมทบคนอื่นๆ อย่าง “หนูทุ่งนา หนึ่งลูกสาว” หรือ “เก้า จิรายุ” ก็มาช่วยเติมเต็มความทรงประสิทธิภาพของกลุ่มดาราได้อย่างดีเยี่ยม แต่ว่าผู้ที่เด่นอีกผู้ที่ไม่กล่าวถึงอาจจะมิได้ ก็คงเป็น “สามารถ เสือย่ำรุ่ง” ที่นับได้ว่าเป็นหนึ่งในหน้าที่การแสดงที่ค่อนข้างจะเยี่ยมที่สุดในอาชีพนี้ของเเลยก็ว่าได้ บางครั้งอาจจะเนื่องจากบทช่วยเหลือนักแสดงของเขาด้วยดี และก็เขาก็ทำมันออกมาเจริญ

มนต์รักนักบรรยาย บางทีอาจจะว่าได้เป็นหนังที่เป็นเสมือนจดหมายรักให้กับหนึ่งในสมัยที่ก้าวหน้าของแวดวงหนังไทยในสมัยก่อน แทรกสอดสถานะการณ์สำคัญของแวดวงนี้ แล้วก็มันเต็มไปด้วยเนื้อความที่หนักแน่นรวมทั้งอิมแพค หากว่ามันจะมองปกติในสายตาคนไม่ใช่น้อย แม้กระนั้นหนังประเด็นนี้สามารถบดขยี้เสน่ห์ในสมัยก่อนนี้ออกมาได้อย่างเปี่ยมล้น

นั่งมองไปก็แอบเสียดายไม่น้อย เพราะหนังอย่างงี้ควรมีช่องทางได้ลงโรงฉายบนหน้าจอใหญ่ๆในโรงหนัง เพราะเหตุว่าหนังเต็มไปด้วยสมรรถนะในงานสร้างรวมทั้งโปรดักชันที่มีเสน่ห์ พวกเราบางทีก็อาจจะกล่าวได้เลยว่า มนต์รักนักบรรยาย น่าจะเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ไทยระดับประสิทธิภาพอีกหัวข้อของแวดวงภาพยนตร์ไทยในรอบปีนี้ เพียงความละเอียดในส่วนประกอบต่างๆก็ถือได้ว่ามนต์เสน่ห์ที่โชยออกมาที่ทำให้พวกเรา..แอบเฉือนน้ำตาที่ความซาบซึ้ง

หนัง ‘สัปเหร่อ’ ได้มองผ่านสายตาของผู้แสดงใหม่ในแฟรนไชส์ ‘ไทบ้าน เดอะซีรีส์’ อย่าง เจิด (เน็ค นฤพล ใยอิ้ม – นักร้องเครือมึงรมมี่โกลด์) นิสิตข้อบังคับที่จะต้องกลับไปอยู่บ้านมาปฏิบัติหน้าที่สัปเหร่อแทนบิดาอำนาจ (อัจฉริยะ ศรีทา) ที่กำลังเจ็บไข้ ซึ่งหนังจะเปิดเผยให้พวกเราทราบตอนหลังว่าศักดาป่วยไข้ใช่หรือเพียงแค่กุศโลบายของบิดา ซึ่งเจิดจะต้องจัดการทั้งยังอาชีพที่เขาไม่ต้องการที่จะอยากทำ

โดยเสนอคำถามกับพิธีการความศรัทธาเกี่ยวกับผู้ตาย รวมทั้งคนเป็นที่จำต้องจัดพิธีการให้ผู้ที่รักตามวัฒนธรรมร่วมยุคไทยอีสาน ที่มีหลายแบบให้ถูกสงสัยถึงเหตุผลสำหรับการปฏิบัติ สล็อต สล็อตออนไลน์ ดังเช่นว่า การโยนไข่หาที่เผาศพ รวมถึงการยินยอมรับเรื่องราวความตายว่าเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของชีวิตคนทุกคนไม่เลือกเชื้อชาติ วัย เพศ หรือศาสนาเป็นภาพสีซีดจางๆที่ยังคงแจ่มใสเสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปยาวนานหลายปีแล้วหลังจากนั้นก็ตาม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *